เอกสารทางธุรกิจ ต่างกันอย่างไร

ในการทำธุรกิจนั้นมีเอกสารมากมายที่ต้องใช้งาน ซึ่งทำให้เกิดความสับสนได้ว่า ตัวไหนใช้สำหรับอะไร ใช้ตอนไหน และมีผลต่อภาษีหรือไม่ โดยในบทความนี้ เราจะมาดูข้อแตกต่างของแต่ละอย่างกัน โดยด้านล่างนี้เป็นตารางสรุปโดยย่อ:
เอกสาร | จุดประสงค์ | ใช้เมื่อ | มีผลต่อภาษี |
---|---|---|---|
ใบเสนอราคา | เสนอราคาหรือเงื่อนไขก่อนเริ่มงานหรือขายสินค้า | ก่อนมีการสั่งซื้อหรือจ้างงาน | ไม่มี |
ใบสั่งซื้อ | ยืนยันการสั่งซื้อสินค้า/บริการจากลูกค้า | หลังจากตกลงราคาและเงื่อนไขแล้ว | ไม่มี |
ใบส่งของ | แสดงหลักฐานการจัดส่งสินค้าให้ลูกค้า | ขณะมีการส่งมอบสินค้า | ไม่มี |
ใบแจ้งหนี้ | เรียกเก็บเงินค่าสินค้าหรือบริการ | หลังส่งสินค้า/บริการเสร็จ | ไม่มี |
ใบกำกับภาษี | ใช้เป็นหลักฐานภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) | เมื่อเรียกเก็บเงินจากลูกค้า (ผู้จด VAT เท่านั้น) | มี |
ใบเสร็จรับเงิน | ยืนยันการชำระเงินจากลูกค้า | เมื่อได้รับเงินจากลูกค้าแล้ว | มี |
หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย | เป็นหลักฐานว่าลูกค้าหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้แล้ว | เมื่อมีการจ่ายค่าบริการที่ต้องหักภาษี | มี |
1. ใบเสนอราคา (Quotation)
คือใบที่ผู้ขายหรือผู้ให้บริการออกให้แก่ลูกค้า เพื่อแสดงราคาสินค้า/บริการ เงื่อนไขการชำระเงิน ระยะเวลาส่งมอบ และข้อกำหนดอื่น ๆ ก่อนที่ลูกค้าจะตัดสินใจสั่งซื้อหรือว่าจ้างงาน
- หน้าที่หลัก: ใช้ตกลงราคาและเงื่อนไข เช่น จำนวน, ระยะเวลา, การจัดส่ง, การชำระเงิน โดย ไม่มีผลผูกพันทางบัญชีหรือภาษี
- ใช้เมื่อไหร่: ก่อนตกลงซื้อขาย เพื่อให้ลูกค้าพิจารณาเปรียบเทียบราคา
- หมายเหตุ: ไม่ใช่เอกสารทางบัญชี ไม่มีผลต่อภาษี และไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานทางรายรับรายจ่ายได้
2. ใบสั่งซื้อ (Purchase Order – PO)
คือใบที่ลูกค้าออกให้กับผู้ขายหรือผู้ให้บริการเพื่อยืนยันการสั่งซื้อสินค้า/บริการ โดยแสดงรายละเอียดสินค้า จำนวน ราคา เงื่อนไขการชำระเงิน และระยะเวลาส่งมอบ
- หน้าที่หลัก: แสดงความยินยอมในการซื้อสินค้า/บริการ ตามเงื่อนไขในใบเสนอราคา
- ใช้เมื่อไหร่: หลังจากตกลงราคาแล้ว เป็นหลักฐานคำสั่งซื้ออย่างเป็นทางการ
- หมายเหตุ: แม้ไม่เกี่ยวกับภาษีโดยตรง แต่สามารถใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงในกรณีเกิดข้อพิพาทได้
3. ใบส่งของ / ใบส่งสินค้า (Delivery Order )
เป็นหลักฐานประกอบการส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้า ใช้ยืนยันว่ามีการส่งของตามรายการที่ตกลงไว้
- หน้าที่หลัก: ใช้ยืนยันว่าผู้ขายได้จัดส่งสินค้าจริง มีรายการและจำนวนตรงตามตกลง
- ใช้เมื่อไหร่: ขณะส่งมอบสินค้า ใช้เป็นหลักฐานประกอบกับใบแจ้งหนี้
- หมายเหตุ: ควรให้ลูกค้าเซ็นรับเพื่อเป็นหลักฐานว่าสินค้าได้ถูกส่งและได้รับเรียบร้อยแล้ว
4. ใบแจ้งหนี้ (Invoice)
คือเอกสารที่ผู้ขายใช้เรียกเก็บเงินจากลูกค้า โดยแสดงรายการสินค้า/บริการ ราคา จำนวน รวมถึงเงื่อนไขการชำระเงิน
- หน้าที่หลัก: แจ้งจำนวนเงินที่ต้องชำระ, รายละเอียดสินค้า/บริการ, เงื่อนไขการจ่ายเงิน แต่ ยังไม่สามารถนำไปใช้หักภาษีได้
- ใช้เมื่อไหร่: เมื่อส่งงาน/สินค้าเสร็จ และต้องการขอรับเงิน
- หมายเหตุ: ไม่ถือเป็นเอกสารภาษีอย่างเป็นทางการ เว้นแต่ใช้ร่วมกับใบกำกับภาษี
5. ใบกำกับภาษี (Tax Invoice)
เป็นเอกสารทางภาษีที่ใช้สำหรับการเรียกเก็บเงินจากลูกค้า โดยผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เท่านั้น
- หน้าที่หลัก: ใช้เป็นหลักฐานเพื่อการหักภาษีซื้อของลูกค้า และบันทึกรายได้ภาษีขายของผู้ขาย
- ใช้เมื่อไหร่: กรณีเป็นผู้ประกอบการที่จด VAT ต้องออกใบกำกับภาษีพร้อมกับหรือหลังส่งมอบสินค้า/บริการ
- หมายเหตุ: ต้องมีรายละเอียดครบถ้วนตามที่กรมสรรพากรกำหนด เช่น ชื่อ-ที่อยู่ของทั้งสองฝ่าย เลขประจำตัวผู้เสียภาษี และแยกราคาก่อน/หลังภาษีอย่างชัดเจน
6. ใบเสร็จรับเงิน (Receipt)
จะออกให้เมื่อลูกค้าชำระเงิน เป็นหลักฐานการรับเงินที่สามารถใช้อ้างอิงได้ทางบัญชี
- หน้าที่หลัก: เป็นหลักฐานยืนยันการรับเงิน และใช้ประกอบรายจ่ายทางภาษี (สำหรับผู้ซื้อ)
- ใช้เมื่อไหร่: เมื่อได้รับเงินจากลูกค้าแล้ว โดยเฉพาะในกรณีเงินสดหรือโอนเงินทันที
- หมายเหตุ: หากเป็นผู้ประกอบการ VAT สามารถรวมใบเสร็จรับเงินกับใบกำกับภาษีได้ (เรียกว่า “ใบกำกับภาษีพร้อมใบเสร็จรับเงิน”)
7. หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (Withholding Tax Certificate)
เป็นสิ่งที่ลูกค้าออกให้แก่ผู้ให้บริการ เพื่อยืนยันว่ามีการหักภาษี ณ ที่จ่ายตามกฎหมายไว้แล้ว เช่น 3% หรือ 5% ตามประเภทบริการ
- หน้าที่หลัก: ใช้เป็นหลักฐานยื่นภาษี เพื่อนำภาษีที่ถูกหักไปหักออกจากยอดภาษีที่ต้องชำระ
- ใช้เมื่อไหร่: เมื่อมีการจ่ายค่าจ้างที่ต้องหักภาษี เช่น ค่าบริการที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป
- หมายเหตุ: มีความสำคัญมากในการใช้ยื่นลดหย่อนภาษีหรือเป็นรายรับสุทธิ ต้องออกให้ตรงกับชื่อผู้รับและระบุเลขประจำตัวผู้เสียภาษีให้ครบถ้วน
โปรแกรมออกใบสำคัญทางธุรกิจ
หลังจากที่ทราบข้อแตกต่างของแต่ละเอกสารไปแล้ว หากท่านเป็นผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ หรือ ฟรีแลนซ์ ที่กำลังมอองหาวิธีทำใบทางธุรกิจต่างๆ อยู่ละก็ เราขอแนะนำโปรแกรมออกใบเสนอราคาและบัญชีออนไลน์ ERPPOP ซึ่งเป็นโปรแกรมออนไลน์ ใช้งานสะดวก มาพร้อมกับฟังก์ชั่นที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบคำนวนต่างๆ การจัดการเอกสาร ระบบจัดการข้อมูล รวมไปถึงการรายงานผลต่างๆ ในหน้า Dashboard
สนใจติดต่อเราวันนี้ โทร 0818390789 หรือคลิกที่ปุ่มด้านล่างเพื่อทดลองใช้งานฟรี